วิธีดูร้านค้า Shopee

แนะนำ วิธีซื้อ วิธีดูร้านค้า Shopee เรื่องน่ารู้หากไม่อยากเจอประสบการณ์แย่ ๆ

สำหรับผู้ที่สนใจในการซื้อของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นจากแพลตฟอร์ม (Platform) แหล่งใดก็ตาม ก็ต้องมีเรื่องให้น่ากัลวลใจไม่น้อย เพราะด้วยรูปแบบการซื้อจากร้านค้าออนไลน์นั้น เป็นสิ่งที่ง่ายต่อการเลือกซื้อ แต่ก็มีโอกาสเสี่ยงกับการที่ผู้ซื้อเจอประสบการณ์แย่ ๆ จากร้านค้าที่สร้างมาเพื่อหลอกผู้ซื้อจากหลากหลายวิธี ดังนั้น ทางผู้ให้บริการซื้อขายนั้น ก็มีทางแก้ง่าย ๆ (มั้ง) ที่จะไม่ทำให้คุณถูกพลาด ถูกผู้คนที่จองจะเล่นคุณในด้านต่าง ๆ นั้นเอง โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำ วิธีดูร้านค้า Shopee เป็นหลัก นั้นเอง.

เช็คก่อนชัวร์ วิธีดูร้านค้า Shopee แต่ละประเภท

ในแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ของ Shopee นั้น จะมีวิธีดูร้านที่ได้รับการรับรองจากทางผู้ให้บริการ แต่ก็ต้องใช้ข้อสังเกตในการตัดสินใจจ่ายเงิน ซึ่งเรา ของดี (khongdi) จะมีบอกวิธีในหัวข้อ ข้อควรระวังจุดสังเกตร้านปลอม หรือร้านต่างประเทศที่ใช่เวลาส่งนาน และอื่น ๆ ที่น่าสนใจในการเลือกซื้อของออนไลน์จากร้านค้าที่ควรเช็คก่อนชัวร์ที่จะสั่งของ.

ก่อนอื่นเราต้องรู้ วิธีดูร้านค้า Shopee แต่ละประเภท ซึ่งมีความแตกต่างของเงื่อนไข โดยแต่ละร้านนั้น ทางร้านค้าจะมีแท็กบ่องบอกถึงสถานะร้านค้าที่คุณสมบัติแตกต่างกัน อย่างเช่น  Shopee Mall (ข้อมูลเพิ่มเติม) และร้านค้าที่มีแท็กร้านค้าแนะนำ ไปจนถึงแท็ก Choice ✔️ และอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นข้อแนะนำในการเลือกซื้อสินค้าที่คุณต้องการ วิธีตรวจสอบประเภทร้านค้าและเงื่อนไข <<โดยทางแพลตฟอร์มโดยตรง โดยนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะขอแนะนำในส่วนอื่น ๆ ที่น่าใจกับปัญหาที่ทำให้คุณเจอประสบการณ์แย่ ๆ หากไม่เช็คก่อนซื้อ.

จุดสังเกตร้านปลอม ข้อควรระวัง!

ทางผู้เขียนได้สังเกตจากร้านดัง อย่างเช่น มั่นคง munkongONLINE เป็นร้านขายหูฟังที่ผู้เขียนใช้บริการการตั้งแต่สั่งซื้อผ่านเว็บทางร้าน ซึ่งทางผู้เขียนได้ค้นหาร้านแล้วได้มาเจอจุดสังเกตอย่างหนึ่ง. ผู้อ่านสังเกตเห็นอะไรแปลก ๆ จากร้านค้าทั้งหมดในภาพได้หรอป่าว หากไม่เข้าใจเราจะบอกจุดสังเกต จากที่เราได้แนะนำวิธีเช็คก่อนชัวร์ มุมซ้ายบนของสินค้าที่บ่องบอกป้ายแท็กสีแดงสถาณะร้านค้าอย่าง ร้าน Mall หรือ ร้านแนะนำ จะสังเกตได้ว่ามีร้านที่ ป้ายแท็กสีแดงไม่ได้ทะลุออกมาจากกรอบของสินค้า (ร้านแท้ป้ายแท็กสีแดงจะทะลุกรอบของสินค้า) ซึ่งหากเราเข้าไปร้านค้าเหล่านี้ จะเป็นชื่อร้านดังต่าง ๆ ตามท้ายด้วยอะไรไม่รู้ และหากเราเข้าไปดูรีวิวสินค้า จะเห็นได้ว่า ส่งจริง – ได้ของจริง (มั้ง) จากคอมเม้นที่ดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไร แต่เราไม่สามารถบอกได้จริงๆ ว่าร้านเฟกคอมเม้นเหล่านี้ขึ้นมารึปล่าว แต่ที่แน่ ๆ ของแท้ไม่ถูกหลักร้อยอย่างนี้ Flash Sale ยังดูปลอม และไม่ถูกต้อง เพราะหากใช้ชื่อร้านค้าที่ดูจงใจก๊อปภาพมา ยังไงก็ตามจะซื้ออะไรก็ควรสังเกตให้ดี ไม่ต้องรีบ ไม่ควรเสี่ยง.

พลาดซื้อร้านค้าต่างประเทศ ใช้เวลาส่งมาถึงนาน

ข้อแนะนำเช็คก่อนซื้อที่เป็นจุดน่าสนใจสำหรับมือใหม่ที่สั่งซื้อของแล้ว พอมาดูสถานะของอีกทีกลับกลายว่าเป็นร้านจากต่างประเทศ ซึ่งใช้เวลา 5-14 วัน ที่จะถึงมือผู้ใช้ ซึ่งทางผู้เขียนก็ได้รับประสบการณ์สุดเซงนี้ จากที่เริ่มใช้งานใหม่ ดังนั้นเราจะแนะนำวิธีดูง่าย ๆ ดังนี้.

  • ชื่อร้านค้าที่ลงท้ายด้วย .th (ซึ่งก็ไม่เสมอไป เพราะบ้างร้านมีสต็อกของในไทย).
  • ในหน้าชำระเงินจะมีตัวเลือกการจัดส่ง ซึ่งจะระบุว่า “จัดส่งจากต่างประเทศ” (สมัยก่อนจำไม่ได้ว่ามีบอกไหม).

 สำหรับวันเวลาในการส่งนั้น ในขนาดนี้นี้ หากคุณใช้งานผ่านแอป Shopee มือถือจะมีบอกข้อมูลรายละเอียดหรือฟังก์ชันที่เยอะกว่า.

ร้านปลอม หรือร้านส่งของที่ไม่ตรงตามกำหนด

นอกจากร้านปลอมที่ก็อปทั้งภาพและชื่อนั้น ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งที่ทำให้หลายคนพลาดไปกดสั่งซื้อ และได้เจอประสบการณ์แย่ ๆ ซึ่งร้านเหล่านี้จะเป็นร้านทั่วไป ไม่มีป้ายแท็กการรับรองใดๆ ทั้งสิ้น โดยจากที่เพื่อนเจอหรือคนอื่นๆ จะพบได้ว่า ร้านส่งของมาจริง – ใช่เวลานาน แต่เป็นของที่ไม่ตรงปก หรือไม่ตรงตามกำหนด และที่แน่ๆ คือ เป็นของที่ตํ่ากว่ามาตรฐาน เช่น สั่งหูฟัง 500 ได้หูฟังราคาไม่ถึงร้อยหากนำไปเทียบราคากับของที่ได้มา จุดสังเกตุร้านเหล่านี้นั้น สามารถดูได้ง่าย ดังนี้

  • ชื่อร้านจะเป็นภาษามั่ว ๆ เช่น Xft5fefeg เหมือนสุ่มสร้าง.
  • ราคาไม่สมเหตุสมผล.
  • อ่านรายละเอียดเข้าใจยาก.

แต่ทั้งนี้สำหรับร้านที่ตั้งชื่อมั่ว ๆ เหล่านี้ ทางผู้เขียนไม่เจอเลย (บทความกลางปี 2024) ตั้งแต่ปลายปี 2023 ได้มั้ง แต่ยังไงก็ตามก็อยากเอาประสบการณ์มาเตือนเพื่อไว้.

สรุป แนะนำวิธีดูร้านค้า Shopee ในปัจจุบัน

สำหรับการซื้อของออนไลน์ที่ปลอดภัย มั่นใจนั้น ง่าย ๆ เลยคือ การซื้อผ่านร้านค้าที่มีเครื่องหมายป้ายแท็กในรูปแบบต่าง ๆ ของทาง Shopee แต่ก็ต้องระวังร้านปลอมที่เรานำมาเตือนกันด้วย จะได้ไม่พลาดเจอประสบการณ์แย่ ๆ ซึ่งผู้อ่านสามารถนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ โดยอ้างอิงหลักการ วิธีดูร้านค้า Shopee ที่เราแนะนำมาพิจารณาร้านค้าออนไลน์ทั้งหมดได้ด้วย ซึ่งจะมีข้อแตกต่างกันออกไปแล้วแต่แพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ แต่ยังไงก็ตามทางผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม (Platform) ก็หาวิธีการรับมือปัญหาเหล่านี้อย่างแน่นอน จากที่ได้ใช้บริการมายาวนานกว่า 4 ปี อย่างเช่น ร้านปลอมที่มีภาษามั่ว ก็รู้สึกได้ว่าไม่เจอเลยในขนาดนี้ และปัญหาที่เรานำมานั้นก็อาจจะถูกแก้ไขไปแล้วก็เป็นได้ ยังไงก็ตามการซื้อของออนไลน์ก็ต้องใจเย็น ไม่รีบมากจนเกินไป สังเกตร้านแท้อย่างที่เราแนะนำไปเกี่ยวกับป้ายแท็กและอื่น ๆ ซึ่งเราหวังว่าน่าจะช่วยให้คุณรู้จักวิธีซื้อของออนไลน์ให้ดีมากยิ่งขึ้นจะได้ไม่เจอประสบการณ์แย่ ๆ อย่างที่เรานำมา.