การฟื้นฟูสุขภาพจิตผลกระทบกับผู้มีอุปนิสัยแบบนาร์ซิสซัส

การฟื้นฟูสุขภาพจิตผลกระทบกับผู้มีอุปนิสัยแบบนาร์ซิสซัส (Narcissistic personality disorder) Part 5

การฟื้นฟูสุขภาพจิตผลกระทบกับผู้มีอุปนิสัยแบบนาร์ซิสซัส เป็นเรื่องยากหากคุณต้องการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพของผู้ที่ยังอยู่ในความสัมพันธ์กับบุคคลที่มีอุปนิสัยเช่นนี้ เหมือนกับการแปะพลาสเตอร์ลงบนบาดแผล โดยที่สาเหตุของอาการบาดเจ็บยังคงอยู่ อีกทั้งคุณไม่สามารถโน้มน้าวให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงตนเองได้ แม้คุณจะพบจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้บ่อยแค่ไหน ก็ยากที่จะทำให้สถานการณ์ในชีวิตของคุณดีขึ้น กลับกันแล้วคงถูกอีกฝ่ายโน้มน้าวหรือปฏิบัติราวกับเป็นภาระที่น่ารำคาญ เพราะสำหรับพวกเขาคุณคือสิ่งของที่ไมสมควรมีปากเสียงหรือความต้องการใด ๆ แม้แต่การรักษาอาการป่วย ยิ่งมีพวกเขาเป็นสาเหตุก็ยิ่งแล้วใหญ่ ดังนั้นในบทความนี้จะแนะแนวถึงวิธีการฟื้นฟูสภาพจิตใจหลังออกจากความสัมพันธ์เป็นพิษกับบุคคลที่มีอุปนิสัยแบบนาร์ซิสซัสแล้ว.

การฟื้นฟูสุขภาพจิตของเหยื่อหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากความสัมพันธ์กับผู้มีอุปนิสัยแบบนาร์ซิสซัส

อยู่กับตัวเอง

อยู่กับตัวเอง อย่างน้อย ๆ เป็นเวลาหกเดือนหรือหนึ่งปี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่อยู่ในความสัมพันธ์เป็นพิษนั้น เพื่อทำความรู้จักและเรียนรู้ที่จะตอบสนองต่อความต้องการของตนเองโดยไม่พึ่งพาผู้อื่น เพราะนั่นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คุณตกหลุมพรางความสัมพันธ์เป็นพิษ และป้องกันไม่ให้กลับเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์แบบเดิมอีกแม้จะเปลี่ยนคนใหม่ ระหว่างนี้ลองเรียนรู้ดูว่าตนชอบหรือไม่ชอบอะไร ตนมีข้อดีและจุดเด่นอะไรบ้าง ลองทำอะไรใหม่ ๆ หรือ สิ่งที่คุณเคยสนใจก่อนละทิ้งไปในความสัมพันธ์เป็นพิษ จดบันทึกความรู้สึกนึกคิดในแต่ละวันเพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หรือเมื่อคุณรู้สึกแบบนี้มันเป็นอย่างไร และจะช่วยเหลือตนเองแบบไหน ซึ่งจะช่วยได้มากขึ้นหากมีจิตแพทย์คอยให้คำปรึกษาและแนะนำ

ตัดความสัมพันธ์อย่างเด็ดขาด เพราะบุคคลที่มีอุปนิสัยดังกล่าว หากพวกเขาไม่สามารถหาคนมาคอยเติมเต็มเพื่อแทนที่คุณได้ พวกเขาจะพยายามดึงคุณกลับเข้าไปในวังวลแห่งความทุกข์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวามรุนแรง คุณอาจจะต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางติดต่อหากถูกคุกคาม คุณอาจจำเป็นจะต้องตัดความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือคนรอบข้างที่กลายเป็นเครื่องมือของอีกฝ่าย หรือหากเป็นตัวคุณเองที่รู้สึกไม่ปลอดภัยหรือเหงาที่จะต้องอยู่คนเดียวโดยที่สภาะจิตใจยังคงหวาดระแวง คุณต้องรู้เอาไว้ว่าความรู้สึกเหงาและไม่ปลอดภัยนั้นเป็นเพียงสิ่งชั่วคราว และเมื่อคุณเริ่มคุ้นชินกับการตอบสนองต่อความต้องการของตนเองแล้วจะรู้สึกดีขึ้นเอง ดังนั้นจึงไม่ควรคอยตามสอดส่องอีกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นบนโชเชี่ยลมีเดีย เพราะมันมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่มากขึ้นเท่านั้น

อ่อนโยนกับตัวเองให้มาก เพราะเป็นการยากที่คนเราจะเปลี่ยนแปลงเมื่อถูกต่อว่าหรือดูแคลน และยังเป็นการซ้ำเติมที่ทำให้คุณรู้สึกด้อยค่า หากเป็นเช่นนั้นแล้วจะเอากำลังใจจากไหนมาเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงตนเองไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องคอยสังเกตพฤติกรรม ฉุกคิด และปรับเปลี่ยน ทีละเล็กละน้อยในทุก ๆ วัน และการพึ่งพาผู้อื่นให้คอยมอบสิ่งเหล่านั้นให้คุณก็ไม่ต่างจากบุคคลเป็นพิษหรอกจริงไหม? ดังนั้นคุณต้องเป็นคนที่ให้กำลังใจตัวเอง ให้อภัยในยามพลาดพลั้ง เป็นกองเชียร์ที่สำคัญของตัวเอง นั่นคือคุณสมบัติของคนที่มีสุขภาพจิตที่ดีและยังช่วยให้คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง

ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้การพึ่งพาและดูแลตัวเองจะเป็นหัวใจหลักของ การฟื้นฟูสุขภาพจิตผลกระทบกับผู้มีอุปนิสัยแบบนาร์ซิสซัส จากความสัมพันธ์เป็นพิษ แต่คุณก็สามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ครอบครัว จิตแพทย์ประจำตัว หรือคนที่หวังดีได้ ขอเพียงแค่ไม่โยนสุขภาพของคุณให้เป็นความรับผิดชอบของคนอื่นก็พอ 

 

Red flags ที่บ่งบอกว่าแฟนของคุณอาจเป็นผู้มีอุปนิสัยแบบนาร์ซิสซัส

ผู้มีอุปนิสัยแบบนาร์ซิสซัส (Narcissistic personality disorder) คือ บุคคลที่มีพฤติกรรมมีตนเองเป็นศูผนย์กลาง ทุก ๆ คำพูดและการกระทำของพวกเขาก็เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตนเองโดยไม่คำนึงถึงอีกฝ่าย จึงถูกจัดเป็นความสัมพันธ์เป็นพิษ (Toxic Person รับมืออย่างไร เมื่อคนใกล้ตัวกลายเป็นพิษ) โดยความรุนแรงและอันตรายขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ซึ่งมีข้อสังเกตดังต่อไปนี้.

การฟื้นฟูสุขภาพจิตผลกระทบกับผู้มีอุปนิสัยแบบนาร์ซิสซัส

Love Bomb

Love Bomb ทุ่มสุดตัวอย่างอลังการงานสร้าง เทคแคร์อย่างดี ผโดยเฉพาะในช่วงต้นของความสัมพันธ์ ซึ่งก็แค่ในช่วงแรกเริ่มเท่านั้น เขาหรือเธอผทำทั้งหมดนั่นเพื่อให้คุณตกหลุมพราง หลังจากนั้นจะกลายเป็นคุณที่ต้องคอยเอาอกเอาใจและตอบสนองต่อความต้องการของอีกฝ่ายโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด รวดเร็วที่สุด เพราะพวกเขาไม่ได้มีความอดทนมากมายอะไรและใช้เหล่ห์เหลี่ยมในการดึงคุณที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเข้ามาติดบ่วงความสัมพันธ์ คุณอาจจะรู้ตัวอีกทีก็แต่งงานมีลูกไปแล้ว ซึ่งทั้งสองอย่างล้วนเป็นเครื่องมือสำหรับพวกเขาที่จะใช้ฉุด รั้งคุณให้ยากที่หลุดออกจากความสัมพันธ์ดังกล่าว.

วิจารณ์รูปร่างหน้าตา หรือเครื่องแต่งกาย การวิจารณ์เครื่องแต่งกายหรือแม้แต่รูปร่างบางครั้งอาจเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นที่บ่งบอกถึงความเป็นห่วงเป็นใย แต่สำหรับบุคคลที่มีพฤติกรรมหรืออุปนิสัยแบบนาร์ซิสซัสแล้วมันคือหนึ่งในวิธีการข่มเหง เพื่อลดทอนคุณค่า และควบคุมอีกฝ่าย โดยสามารถแยกแยะได้จากวิธีการพูดและการกระทำ เช่น “ชุดนี้ดูไม่เหมาะสมกับกาลเทศะเลย ลองเปลี่ยนเป็นชุดอื่นดีไหม ตัวนี้เป็นยังไง” หรือ“ดูอ้วนขึ้นนะ ลองงดของหวานแล้วไปออกกำลังกายกันไหม” ซึ่งเป็นตัวอย่างของคำวิจารณ์ที่มาควบคู่กับคำแนะนำแสดงถึงความห่วงใยเพื่อช่วยเหลือโดยที่ยังคงมีที่ว่างให้คุณได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากคำวิจารย์ของผู้มีพฤติกรรมเป็นพิษ เช่น “ใส่กระโปรงสั้นอย่างกับอีตัวแน่ะ” หรือ “อ้วนอย่างนี้อีกหน่อยก็คงแยกไม่ออกว่าคนหรือหมูกันแน่” ซึ่งเป็นคำวิจารณ์ที่ทั้งเสียดสีและล้อเลียนจนทำให้คนฟังรู้สึกแย่ต่อตนเอง ซึ่งอาจจะส่งผลให้คุณรู้สึกด้อยค่าและติดอยู่ในความสัมพันธ์อันเป็นพิษเพราะคิดว่าตนไม่คู่ควรกับคนที่ดีกว่าพวกเขา.

ตัดขาดคุณจากคนรอบข้าง เป็นเล่ห์เหลี่ยมเชิงจิตวิทยาเพื่อให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งอื่นใดนอกจากแฟนของคุณ โดยพวกเขาจะคอยวิจารณ์และว่าร้ายบุคคลเหล่านั้น เช่น คุณทะเลาะกับแฟนแล้วไปปรึกษาเพื่อน ซึ่งเพื่อนคนนั้นอาจจะให้คำแนะนำที่ผทำให้เขาหรือเธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองมีอันตราย หลังจากที่คืนดีกัน แฟนของคุณอาจจะแสดงท่าทีว่าไม่ชอบเพื่อนของคุณอย่างชัดเจน หรือโกรธเวลาที่คุณใช้คุยหรือออกไปข้างนอก กับเพื่อนคนนั้น และอาจใส่ความว่าร้ายว่าเพื่อนของคุณอิจฉาที่คุณมีแฟนที่ดีเหมือผนเขาหรือเธอจึงได้พยายามทำให้ความสัมพันธ์ร้าวฉาน คุณที่เกิดความระแวงหรือต้องการให้แฟนของคุณรู้สึกสบายใจก็ย่อมรักษาระยะห่างจากเพื่อนคนดังกล่าว ซึ่งการตัดขาดคุณออกจากคนรอบข้างนี้รวมไปถึงกับคนในครอบครัวของคุณด้วย เพราะแน่นอนว่าครอบครัวที่รักและห่วงใยคุณสังเกตว่าคุณเปลี่ยนไปหือมีความสุขน้อยลง พวกเขาก็ต้องพยายามยื่นมือเข้าช่วยเหลือซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนเป็นพิษของคุณย่อมไม่ต้องการให้เกิดขึ้นจึงได้พยายามกีดกันออกไป.

เอาใจใส่คุณเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของแฟนที่ดี แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่เพียงแค่แสดงออกทางพฤติกรรมแต่ยังแสดงออกทางคำพูดเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนในที่นั้นได้รับรู้ แต่เมื่ออยู่กันตามลำพังคุณอาจจะถูกเมินราวกับอากาผศหรือแสดงท่าทีรำคาญหากคุณพยายามที่ดึงดูดความสนใจจากเขา.

นอกใจ การนอกใจนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของผู้มีอุปนิสัยแบบ นาร์ซิสซัส เพราะพวกเขาต้องการความสนใจ คำชม และความรักจากผู้อื่น หากคุณชม เอาใจเขาหรือเธอน้อยไป หรือยุ่งกับเรื่องส่วนตัว พวกเขาก็จะไปหาการเติมเต็มจากคนอื่น

Gaslighting เป็นเล่ห์เหลี่ยมเชิงจิตวิทยาอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งบุคคลประเภทนี้มักนิยมใช้ คือการบิดเบือนความจริงซึ่งมีผลทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสับสน ยกตัวอย่างเช่น แฟนของคุณมักบอกคุณเสมอว่า ในโลกนี้ไม่มีใครที่รักคุณเท่าเขาหรือเธอ หลังจากที่ทำร้ายร่างกายหรือพูดจาทำร้ายจิตใจของคุณ ซึ่งแน่นอนว่าพฤติกรรมของพวกเขานั้นไม่ได้มาจากความรัก เป็นเพียงการลงโทษสิ่งที่อยู่ใต้อำนาจของตนเพียงเท่านั้น แต่พวกเขาใช้คำพูดเพื่อให้คุณเชื่อว่ามันคือความรัก…

ทุกอย่างเป็นความผิดของคุณ คนประเภทนี้ยึดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางและหากมีสิ่งหรือเหตุการณ์ที่ไม่ตรงกับอุดมคติของพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นความผิดของผู้อื่น เช่น คุณแอบดูมือถือของแฟนแล้วจับได้ว่าเขาหรือเธอกำลังคุยกับคนอื่นในเชิงชู้สาว จึงได้ถามถึงความรับผิดชอบและคำอธิบาย แต่เขาหรือเธอกับต่อว่าคุณว่าไร้มารยาทที่มาแอบดูมือถือของคนอื่นและเป็นคนวิตกจริตคิดเองเออเองทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ซึ่งนั่นจะทำให้คุณรู้สึกเป็นฝ่ายผิดและคนรักที่แย่ทันที จนลืมนึกถึงเรื่องที่เขานอกใจและหากคุณพยายามจะหยผิบยผกมันขึ้นมาเขาก็จะโจมตีคุณแบบเดิมพร้อมกับบอกปัด ในบางกรณีที่ถูกจับผได้จนเขาหรือเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับ แต่พวกเขามักจะพูดว่า “ที่เขาหรือเธอต้องนอกใจก็เพราะคุณ ฯลฯ”

นี่คือข้อสังเกตหลัก ๆ ที่พอจะช่วยให้คุณระบุได้ว่ากำลังเผชิญอยู่กับบุคคลประเภทนี้ แม้บทความนี้จะไม่สามารถช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณดีขึ้น แต่หวังว่าจะช่วยเป็นข้อมูลสำหรับพิจารณาความเป็นไปของความสัมพันธ์โดยที่คุณสามารถเลือกเพื่อตัวของคุณเอง.