สูตรขนม คัสตาร์ดพุดดิ้งหวานน้อย วิธีทำง่าย ๆ

คัสตาร์ดพุดดิ้งเป็นเมนูยอดนิยมจากประเทศญี่ปุ่นที่มีวิธีการทำที่ง่าย แต่ก็มีจุดที่ต้องระวังอยู่พอสมควร ประกอบไปด้วยส่วนประกอบสองอย่างคือ คาราเมลและเนื้อคัสตาร์ดหวานละมุนนุ่มลิ้น แต่ด้วยส่วนตัวผู้เขียนไม่ชอบของที่หวานจนเกินไป สูตรนี้จึงลดน้ำตาลในส่วนของเนื้อคัสตาร์ดลงไป กับ คัสตาร์ดพุดดิ้งหวานน้อย พร้อมวิธีทำง่าย ๆ ในวันนี้.
เตรียมอุปกรณ์
- ช้อนและถ้วยวัดตวง
- ตะกร้อตีมือ
- หม้อ
- ชามผสม
- โหลแก้วพุดดิ้งหรือถ้วยเซรามิคขนาดเล็กสำหรับบรรจุพุดดิ้ง
ตะกร้อตีไข่สแตนเลส

Prestige Main Ingredients ตะกร้อตีไข่สแตนเลส ช่วยให้คุณประกอบอาหารได้อย่างสะดวก ด้วยการออกแบบตามการใช้งานผลิตจากวัสดุไนล่อนทนความร้อน คุณภาพดี ด้ามจับ แบบ Santoprene ช่วยจับกระชับมือให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจ.
เตรียมวัตถุดิบ
คาเรเมล
- น้ำตาลทรายเกล็ดละเอียดหรือน้ำตาลทรายขาว 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 1-2 ช้อนโต๊ะ
คัสตาร์ด
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- นมจืด 250 มิลลิลิตร
วิธีทำคัสตาร์ดพุดดิ้งหวานน้อย
- เทน้ำเปล่าและนํ้าตาลทรายลงในหม้อ แล้วนำไปตั้งเตาที่ความร้อนปานกลาง จนน้ำตาลทั้งหมดละลายและเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมทอง.
- ใส่น้ำร้อนลงไปในคาราเมล แล้วจับหม้อหมุนให้น้ำกับคาราเมลเข้ากันและยกลงจากเตา (ควรใช้หม้อทรงสูงและมีที่จับซึ่งอยู่ห่างออกไป หรือสวมถุงมือเพื่อป้องกันคาราเมลที่กระเซ็นไปถูกผิวหนัง).
- เทคาราเมลลงในถ้วยหรือโหลแก้วที่เตรียมเอาไว้โดยแบ่งเป็น 3 – 4 ส่วนเท่า ๆ กัน.
- ตอกไข่ใส่ในชามผสมแล้วใชะตะกร้อตีให้ไข่ขาวและไข่แดงผสมเป็นเนื้อเดียวกัน.
- ใช้หม้อใบเดิม (ไม่ต้องล้าง) ใส่นมแล้วนำไปตั้งไฟ พอเริ่มเดือดให้ยกลงจากเตา.
- ค่อย ๆ เทนมที่ร้อนลงไปในไข่ทีละนิดและคอยใช้ตะกร้อคนตลอดเวลาให้เข้ากัน.
- เทคัสตาร์ดลงในถ้วยซึ่งรองพื้นด้วยคาราเมล ก่อนจะนำไปจัดวางในหม้อ รองพื้นด้วยผ้าเพื่อป้องกันไม่ให้ถ้วยและหม้อกระทบกันระหว่างที่ต้ม เทน้ำเปล่าหรือน้ำอุ่นลงไปให้ขึ้นมาถึงประมาณครึ่งหนึ่งของถ้วยพุดดิ้ง.
- ตั้งที่ไฟอ่อนและปิดฝาหม้อ เป็นเวลา 10 – 12 นาที (เช็คความสุกโดยการจับถ้วยเอียงไปมาเบา ๆ หากคงรูปหรือยืดหยุ่นเล็กน้อยก็แปลว่าสุกได้ที่แล้ว).
- ทิ้งไว้ให้เย็นลง ก่อนนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้เซ็ตตัวและอร่อยขึ้น.
- Enjoy!

TIPS
- หากต้องการทานตามแบบฉบับที่จัดวางโดยคว่ำพุดดิ้งลงบนจานหรือชาม ควรใช้ถ้วยเซรามิกในการตุ๋น ก่อนเทส่วนผสมควรทาเนยให้ทั่วรอบข้างด้านในเพื่อป้องกันพุดดิ้งติดขอบถ้วย.
- น้ำตาลที่ใช้ควรเป็นน้ำตาลเกล็ดละเอียดเพราะละลายได้เร็ว หากไม่มีให้ใช้น้ำตาลทรายขาวและเพิ่มน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยให้ละลาย เพราะหากใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งมีสีออกน้ำตาลอาจจะแยกไม่ออกว่ากลายเป็นคาราเมลแล้วหรือยังหรืออาจจะไหม้ไปเลย.
- การต้มคาราเมลควรใช้ไฟปานกลาง เพราะหากใช้ไฟแรงคาราเมลอาจจะไหม้ได้ และหากใช้ความร้อนที่ต่ำเกินไปก็จะไม่กลายเป็นคาราเมล.
- ใระหว่างที่ต้มคาราเมลควรจดจ่อไม่ละสายตา เพราะขั้นตอนการที่น้ำตาลกลายเป็นคาราเมลมันเกิดขึ้นเร็วมาก หากช้ายกลงจากเตาช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีอาจไหม้ได้และจะเหลือแต่รสขมไม่มีความหวาน.
- การใส่น้ำร้อนลงในคาราเมลในต้อนท้ายนั้น ก็เพื่อไม่ให้คาราเมลแข็งตัวและพื้นผิวบางส่วนรวมกับเนื้อคัสตาร์ดขณะตุ๋น เพื่อให้ได้รสชาติของคาราเมลและสีน้ำตาลที่ก้นของพุดดิ้ง.
- ก่อนเทคาราเมลลงในโหลแก้วควรอุ่นโหล โดยการนึ่งผ่านความร้อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแตกร้าวเพราะความร้อนสูงจากคาราเมล.
- หากอุณหภูมิของน้ำและภาชะตุ๋นต่างกันเกินไปอาจทำให้ภาชนะแตกร้าวได้ จึงควรระมัดระวังและใช้น้ำอุ่นเทลงในหม้อก่อนนำไปตั้งไฟ.
- สามารถใช้หม้อสำหรับนึ่งในการตุ๋นได้ แต่จะใช้เวลาทำให้สุกนานขึ้น.
- หากต้องการให้เนื้อพุดดิ้งด้านบนเรียบเนียน ควรใช้ฟอยด์ห่ออาหารปิดปากภาชนะแต่ละใบให้เรียบร้อยก่อนนำไปตุ๋น.
- ระวังอย่าให้พุดดิ้งสุกเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อหยาบไม่อร่อย.
